5 เหตุผลที่ทำไมคุณถึงต้องใช้ Bamboo Mouthwash
1.Bamboo Mouthwash ไม่แสบปาก - ผู้ใช้หลายๆคนเคยใช้แบมบูที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ลูกค้าส่วนใหญ่มักบอกว่า แสบปาก แต่พอได้มาลองใช้ Bamboo Mouthwash แบมบู เม้าท์วอช ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่แสบปาก รู้สึกนุ่มนวลมวลอยู่ในปาก และ เป็นวิธีที่ทำให้ฟันขาวอีกต่างหาก
2.Bamoo Mouthwash ทำให้อะไรก็ไม่รู้ออกมาจากปาก - นี่คือคำพูดแรกๆของคนส่วนใหญ่ที่ได้ลองน้ำยาบ้วนปาก Bamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช) พอหลังจากกลั้วปากแล้วบ้วนออกมา มันมีเมือกดำๆ ออกมาด้วยแหละ แบบนี้ลูกค้าต้องลองเองแล้วนะครับ
3.Bamboo Mouthwash ทำให้รู้สึกมั่นใจเวลาพูดมากขึ้น - คนที่มีกลิ่นปาก สูบบุรี เพิ่งทานอาหารเสร็จ ต้องได้ใช้ Bamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช ) ก่อนถึงจะมั่นใจมากขึ้น จะพรีเซนต์งาน คุยกับลูกค้า พก Bamboo Mouthwash เท่ากับพกความมั่นใจครับ
4.Bamboo Mouthwash ได้รับการรับรองจาก อย. - ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรได้รับเลขที่ใบแจ้งจากองค์การอาหารและยานะครับ และBamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช) ก็ได้รับเลขที่ใบแจ้งเรียบร้อย 10-2-5712989 มั่นใจใช้ แบมบู เม้าท์วอช
5.สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ Bamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช) ขายดีอันดับหนึ่งเพราะเป็นการบอกปากต่อปากครับ เพื่อนใช้ดีบอกคนที่รู้จักต่อๆกันไป ทำให้รู้จักเป็นวงกว้าง และดังถึงต่างประเทศ
วันนี้คุณมั่นใจได้เลยครับว่า น้ำยาบ้วนปาก Bamboo Mouthwash แบมบู เม้าท์วอช เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง ผลิตโดยบริษัทคุณภาพจากประเทศไต้หวัน
ได้รับ อย. เรียบร้อย ครับ
1.Bamboo Mouthwash ไม่แสบปาก - ผู้ใช้หลายๆคนเคยใช้แบมบูที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ลูกค้าส่วนใหญ่มักบอกว่า แสบปาก แต่พอได้มาลองใช้ Bamboo Mouthwash แบมบู เม้าท์วอช ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่แสบปาก รู้สึกนุ่มนวลมวลอยู่ในปาก และ เป็นวิธีที่ทำให้ฟันขาวอีกต่างหาก
2.Bamoo Mouthwash ทำให้อะไรก็ไม่รู้ออกมาจากปาก - นี่คือคำพูดแรกๆของคนส่วนใหญ่ที่ได้ลองน้ำยาบ้วนปาก Bamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช) พอหลังจากกลั้วปากแล้วบ้วนออกมา มันมีเมือกดำๆ ออกมาด้วยแหละ แบบนี้ลูกค้าต้องลองเองแล้วนะครับ
3.Bamboo Mouthwash ทำให้รู้สึกมั่นใจเวลาพูดมากขึ้น - คนที่มีกลิ่นปาก สูบบุรี เพิ่งทานอาหารเสร็จ ต้องได้ใช้ Bamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช ) ก่อนถึงจะมั่นใจมากขึ้น จะพรีเซนต์งาน คุยกับลูกค้า พก Bamboo Mouthwash เท่ากับพกความมั่นใจครับ
4.Bamboo Mouthwash ได้รับการรับรองจาก อย. - ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรได้รับเลขที่ใบแจ้งจากองค์การอาหารและยานะครับ และBamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช) ก็ได้รับเลขที่ใบแจ้งเรียบร้อย 10-2-5712989 มั่นใจใช้ แบมบู เม้าท์วอช
5.สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ Bamboo Mouthwash (แบมบู เม้าท์วอช) ขายดีอันดับหนึ่งเพราะเป็นการบอกปากต่อปากครับ เพื่อนใช้ดีบอกคนที่รู้จักต่อๆกันไป ทำให้รู้จักเป็นวงกว้าง และดังถึงต่างประเทศ
วันนี้คุณมั่นใจได้เลยครับว่า น้ำยาบ้วนปาก Bamboo Mouthwash แบมบู เม้าท์วอช เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง ผลิตโดยบริษัทคุณภาพจากประเทศไต้หวัน
ได้รับ อย. เรียบร้อย ครับ
สอบถามเพิ่มเติม
คุณสา โทร 097-2525954 ID Line : sas2534
คุณสา โทร 097-2525954 ID Line : sas2534
Bamboo 'สลายคราบหินปูน'
เพื่อลมหายใจที่สดชื่น ยิ้มอย่างมั่นใจได้ตลอดวัน
มันไม่ธรรมดาถ้าคุณได้ลอง ทุกวินาที ภายในปาก มีแบคทีเรียเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
วิธีใช้
เพื่อลมหายใจที่สดชื่น ยิ้มอย่างมั่นใจได้ตลอดวัน
มันไม่ธรรมดาถ้าคุณได้ลอง ทุกวินาที ภายในปาก มีแบคทีเรียเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
วิธีใช้
สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าทุกท่าน
อันนี้ตัวสาเองจะมาแนะนำสินค้า ในฐานะที่เคยเป็นผู้ใช้มาก่อน ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ BAMBOO MOUTHWASH & HYDENT น้ำยาบ้วนปากและยาสีฟันคุณภาพ ที่ขจัดคราบพลัด ลดการเกิดหินปูน ยับยั้งแบคทีเรีย และระงับกลิ่นปาก โดยส่วนตัวสาไม่ชอบไปหาหมอฟันบ่อยๆ เพราะกลัวเจ็บ และค่าใช้จ่ายสูง เลยลองมาใช้ตัวนี้ดู รู้สึกดีมากกกก ไม่ต้องไปหาหมอบ่อยๆ แถมฟันยังขาวขึ้นอีกด้วยและยิ่งตัวน้ำยาบ้วนปากนะค่ะ เพราะปกติเคยใช้ตัวอื่น อมได้แปปเดียวไม่ทันได้กลั้วปากก็บ้วนออกแล้ว เพราะแสบปากมากกกก แต่พอลองมาใช้ Bamboo mouthwash ครั้งแรกเลย โคตรชอบเลยค่ะไม่แสบปาก แถมเย็นสดชื่นมาก ลองเลยค่ะ..ถ้าไม่ใช้เองไม่กล้าแนะนำคร้า!!! |
คุณเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านไปมั้ยยะ ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย!Fluoride Alert .Org
|
สาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นปาก1. การไม่รักษาสุขภาพช่องปากให้ดี ก็ทำให้มีกลิ่นปากได้ เช่น แปรงฟันไม่สะอาดทำให้มีคราบอาหารหรือคราบแบคทีเรียมาเกาะอยู่ตามผิวฟัน ลิ้น หรือกระพุ้งแก้ม
2. ลิ้นเป็นฝ้า สาเหตุหนึ่งของกลิ่นปาก ลิ้นที่เป็นฝ้านั้นเกิดจากการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรียบนผิวด้านบนของลิ้น
3. น้ำลาย ก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ถ้าหากน้ำลายน้อยก็จะชำระล้างเศษอาหารได้ไม่หมดจนทำให้เกิดกลิ่นปาก รวมไปถึงผู้ที่มีน้ำลายข้นเหนียวก็จะชำระล้างเศษอาหารได้ไม่ดีเท่าผู้ที่มีน้ำลายใส และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเมื่อตื่นนอนจึงมักมีกลิ่นปาก นั่นเป็นเพราะในขณะหลับจะมีการไหลเวียนของน้ำลายน้อย ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าคอแห้งปากแห้งก็ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ
4. หินปูน สาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก หากมีหินปูนต้องให้ทันตแพทย์ทำการขูดออก
5. ฟันผุ จะทำให้เศษอาหารไปติดค้างอยู่ในรูฟันที่ผุจนเกิดการบูดเน่าและทำให้เกิดกลิ่น หรือผู้ที่มีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน ทำให้มีหนองที่ปลายรากฟัน ซึ่งหนองพวกนี้จะมีกลิ่นเหม็นมาก
6. แผลในช่องปาก เมื่อเป็นแผลจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ และเมื่อแผลหายกลิ่นปากก็จะลดลง นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นได้ภายหลังการถอนฟันหรือการผ่าตัดในช่องปาก เนื่องจากขณะมีแผลผู้ป่วยจะใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ถนัด ทำให้มีอาหารติดฟันได้มากและง่ายขึ้น ส่วนแผลที่มีเลือดไหลซึมก็จะเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อโรคในช่องปากจนทำให้เลือดมีกลิ่นเหม็นและเกิดการบูดเน่าของอาหารได้
7. โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ เหงือกอักเสบเนื่องจากมีหินปูน มีการทำลายอวัยวะรอบรากฟัน เหงือกอ้าออกจากตัวฟัน ทำให้มีเศษอาหารเข้าไปสะสมได้ง่ายขึ้นและแปรงออกไม่หมดจนเกิดเป็นหินปูนอยู่ภายใน แล้วทำให้เกิดการอักเสบ ในรายที่เหงือกอ้าออกมากและมีหินปูนเข้าไปสะสมอยู่มากก็อาจจะต้องทำการผ่าตัดเปิดเหงือกออกเพื่อกำจัดหินปูนออกให้หมดก่อน แล้วจึงปิดเหงือกกลับเข้าไปตามเดิม สำหรับผู้ที่เป็นและเคยรักษาโรคปริทันต์มาแล้ว หรือขจัดคราบอาหารออกได้หมด ก็ต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดเพิ่มเติม เช่น ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน แผ่นเทปรัดฟัน เป็นต้น
8. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน ตั้งแต่จมูก คอ จนถึงหลอดลม เช่น โรคโพรงจมูกอักเสบ หรือ ไซนัสอักเสบ (เกิดจากการมีของเหลวหรือหนองอยู่ในโพรงอากาศของกระดูกใบหน้าซึ่งมีหลายโพรง การอักเสบจนมีหนองจะทำให้เกิดกลิ่นออกมาทางจมูกในขณะหายใจและออกมาทางปากในขณะพูด จึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดบ่อยๆ หรือเป็นนานๆ)
9. มะเร็งที่โพรงจมูก จะทำให้มีกลิ่นเหม็นมากและจะมีหนองไหลออกจากจมูกลงไปในคอเวลาก้มศีรษะ
10. ต่อมทอนซิลอักเสบ ผู้ที่เจ็บคอขณะที่มีการอักเสบในลำคอหรือต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ และจะหายไปเมื่อคอหายอักเสบ
11. นิ่วในต่อมทอนซิล (Tonsil Stone) หากคุณไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจรักษาจนแน่ใจแล้วว่าเหงือกและฟันของคุณไม่มีปัญหา แปรงฟันสะอาดแล้วแต่กลิ่นปากไม่หาย คุณคงต้องไปพบหมอด้านหู คอ จมูก เพื่อใช้เครื่องมือในการตรวจอย่างละเอียด แต่บางครั้งแค่คุณอ้าปากก็อาจเห็นก้อนสีขาวๆ เหลืองๆ ติดอยู่ตรงต่อมทอนซิลก็ได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เศษอาหาร แต่เป็นก้อนที่เกิดจากการหมักหมมของน้ำลายผสมกับอาหาร เศษเนื้อตายของต่อมทอนซิล และแบคทีเรียที่ไม่ต้องการอากาศ ที่เป็นตัวสร้างแก๊สไข่เน่ารอบๆ ก้อนนิ่ว เมื่อลมหายใจผ่านก้อนนิ่วนี้ออกมา ก็จะสิ่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปหมด นอกจากนี้นิ่วในต่อมทอนซิลส่วนหนึ่งก็อาจเกิดจากการผ่าตัดต่อมทอนซิลแล้วทำให้เป็นต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังกันมากขึ้น หรืออาจเกิดจากยาปฏิชีวนะหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาต่อมทอนซิลแล้วทำให้น้ำลายในช่องปากน้อยลง เป็นต้น แต่ก็ใช้ว่าทุกคนจะต้องมีนิ่ว ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคนด้วย ซึ่งจากการศึกษาในต่างประเทศนั้นพบว่ากลุ่มประชาทั่วไปเป็นนิ่วในต่อมทอนซิลสูงถึง 6% ส่วนในประเทศไทยนั้นยังไม่มีการทำสถิติออกมา แต่เชื่อว่าคนที่เป็นน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านคน และคุณอาจจะมีนิ่วที่ต่อมทอนซิลจนเกิดกลิ่นปากโดยไม่รู้ตัวก็ได้ โดยให้ลองสังเกตดูว่าคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ เช่น มีอาการระคายคอ รู้สึกเหมือนมีเสมหะในลำคอบ่อยๆ ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือถ้าพักผ่อนน้อยหรือไปออกกำลังกายเมื่อไหร่ก็จะมีไข้รุมๆ ไม่สบายตัว เจ็บคอนิดหน่อยตรงต่อมทอนซิล และอาจมีอาการอ่อนเพลียสุดๆ เป็นต้น ถ้ามีก็รีบไปพบแพทย์ด่วนๆ เลยจ้า (ข้อมูลจาก นพ. สรัลชัย เกียรติสุระยานนท์)
12. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง มะเร็งปอด วัณโรคปอด ก็จะมีกลิ่นออกออกมากับลมหายใจและลมปากได้
13. โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ภาวะท้องอืด โรคกรดไหลย้อน โรคแผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร
14.การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ สะตอ ชีส ทุเรียน ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ แต่เมื่อถูกย่อยหรือดูดซึมและขับถ่ายออกหมดแล้ว กลิ่นก็จะหายไป (แต่ถ้ารับประทานต่อเนื่องก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน)
15. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเหล้าหรือเบียร์ก็ล้วนแต่เป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก
16. ยาบางชนิด เช่น ยารักษาผู้ป่วยโรคจิตบางตัว ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง ก็ทำให้เกิดกลิ่นได้
17. ผู้ที่สูบบุหรี่นานๆ จะทำให้ลมหายใจและลมปากมีกลิ่นเหม็น
18. ผู้ที่ใส่ฟันปลอมหรือใส่เครื่องมือต่างๆ ในปาก เช่น เครื่องมือจัดฟัน เครื่องมือกันฟันล้มเก เฝือกสบฟัน เป็นต้น ถ้าหากรักษาความสะอาดไม่ดีพอก็ทำให้มีกลิ่นได้ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ทำด้วยหรือมีส่วนผสมของอะคริลิกอยู่ด้วย เนื่องจากเนื้ออะคริลิกจะมีรูพรุนที่สามารถดูดซึมของเหลวต่างๆ ได้ หากล้างไม่สะอาดอาหารก็จะบูดเน่าติดอยู่กับเครื่องมือเหล่านี้จนทำให้เกิดกลิ่นได้ ดังนั้นควรทำสะอาดทุกครั้งหลังจากถอดแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็ควรแช่ไว้ในน้ำสะอาด และก่อนนำมาใช้ก็ให้ทำความสะอาดอีกรอบ ถ้ามีคราบหรือหินปูนเกาะก็ให้ใช้น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมโดยเฉพาะแช่ไว้เป็นครั้งคราว
นอกจากนี้สาเหตุของกลิ่นปากอาจเกิดได้จากโรคที่เกี่ยวกับระบบการทำงานของร่างกายต่างๆ ซึ่งจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของแต่ละโรค เช่น โรคเบาหวาน การติดเชื้อหรือเป็นฝีที่ปอด ตับหรือไตวาย ความเจ็บป่วยในระบบทางเดินอาหารต่างๆ รวมไปถึงผู้ป่วยที่ควบคุมอาหารเป็นประจำ
2. ลิ้นเป็นฝ้า สาเหตุหนึ่งของกลิ่นปาก ลิ้นที่เป็นฝ้านั้นเกิดจากการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรียบนผิวด้านบนของลิ้น
3. น้ำลาย ก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ถ้าหากน้ำลายน้อยก็จะชำระล้างเศษอาหารได้ไม่หมดจนทำให้เกิดกลิ่นปาก รวมไปถึงผู้ที่มีน้ำลายข้นเหนียวก็จะชำระล้างเศษอาหารได้ไม่ดีเท่าผู้ที่มีน้ำลายใส และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเมื่อตื่นนอนจึงมักมีกลิ่นปาก นั่นเป็นเพราะในขณะหลับจะมีการไหลเวียนของน้ำลายน้อย ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าคอแห้งปากแห้งก็ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ
4. หินปูน สาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก หากมีหินปูนต้องให้ทันตแพทย์ทำการขูดออก
5. ฟันผุ จะทำให้เศษอาหารไปติดค้างอยู่ในรูฟันที่ผุจนเกิดการบูดเน่าและทำให้เกิดกลิ่น หรือผู้ที่มีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน ทำให้มีหนองที่ปลายรากฟัน ซึ่งหนองพวกนี้จะมีกลิ่นเหม็นมาก
6. แผลในช่องปาก เมื่อเป็นแผลจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ และเมื่อแผลหายกลิ่นปากก็จะลดลง นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นได้ภายหลังการถอนฟันหรือการผ่าตัดในช่องปาก เนื่องจากขณะมีแผลผู้ป่วยจะใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ถนัด ทำให้มีอาหารติดฟันได้มากและง่ายขึ้น ส่วนแผลที่มีเลือดไหลซึมก็จะเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อโรคในช่องปากจนทำให้เลือดมีกลิ่นเหม็นและเกิดการบูดเน่าของอาหารได้
7. โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ เหงือกอักเสบเนื่องจากมีหินปูน มีการทำลายอวัยวะรอบรากฟัน เหงือกอ้าออกจากตัวฟัน ทำให้มีเศษอาหารเข้าไปสะสมได้ง่ายขึ้นและแปรงออกไม่หมดจนเกิดเป็นหินปูนอยู่ภายใน แล้วทำให้เกิดการอักเสบ ในรายที่เหงือกอ้าออกมากและมีหินปูนเข้าไปสะสมอยู่มากก็อาจจะต้องทำการผ่าตัดเปิดเหงือกออกเพื่อกำจัดหินปูนออกให้หมดก่อน แล้วจึงปิดเหงือกกลับเข้าไปตามเดิม สำหรับผู้ที่เป็นและเคยรักษาโรคปริทันต์มาแล้ว หรือขจัดคราบอาหารออกได้หมด ก็ต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดเพิ่มเติม เช่น ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน แผ่นเทปรัดฟัน เป็นต้น
8. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน ตั้งแต่จมูก คอ จนถึงหลอดลม เช่น โรคโพรงจมูกอักเสบ หรือ ไซนัสอักเสบ (เกิดจากการมีของเหลวหรือหนองอยู่ในโพรงอากาศของกระดูกใบหน้าซึ่งมีหลายโพรง การอักเสบจนมีหนองจะทำให้เกิดกลิ่นออกมาทางจมูกในขณะหายใจและออกมาทางปากในขณะพูด จึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดบ่อยๆ หรือเป็นนานๆ)
9. มะเร็งที่โพรงจมูก จะทำให้มีกลิ่นเหม็นมากและจะมีหนองไหลออกจากจมูกลงไปในคอเวลาก้มศีรษะ
10. ต่อมทอนซิลอักเสบ ผู้ที่เจ็บคอขณะที่มีการอักเสบในลำคอหรือต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ และจะหายไปเมื่อคอหายอักเสบ
11. นิ่วในต่อมทอนซิล (Tonsil Stone) หากคุณไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจรักษาจนแน่ใจแล้วว่าเหงือกและฟันของคุณไม่มีปัญหา แปรงฟันสะอาดแล้วแต่กลิ่นปากไม่หาย คุณคงต้องไปพบหมอด้านหู คอ จมูก เพื่อใช้เครื่องมือในการตรวจอย่างละเอียด แต่บางครั้งแค่คุณอ้าปากก็อาจเห็นก้อนสีขาวๆ เหลืองๆ ติดอยู่ตรงต่อมทอนซิลก็ได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เศษอาหาร แต่เป็นก้อนที่เกิดจากการหมักหมมของน้ำลายผสมกับอาหาร เศษเนื้อตายของต่อมทอนซิล และแบคทีเรียที่ไม่ต้องการอากาศ ที่เป็นตัวสร้างแก๊สไข่เน่ารอบๆ ก้อนนิ่ว เมื่อลมหายใจผ่านก้อนนิ่วนี้ออกมา ก็จะสิ่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปหมด นอกจากนี้นิ่วในต่อมทอนซิลส่วนหนึ่งก็อาจเกิดจากการผ่าตัดต่อมทอนซิลแล้วทำให้เป็นต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังกันมากขึ้น หรืออาจเกิดจากยาปฏิชีวนะหลายชนิดที่ใช้ในการรักษาต่อมทอนซิลแล้วทำให้น้ำลายในช่องปากน้อยลง เป็นต้น แต่ก็ใช้ว่าทุกคนจะต้องมีนิ่ว ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคนด้วย ซึ่งจากการศึกษาในต่างประเทศนั้นพบว่ากลุ่มประชาทั่วไปเป็นนิ่วในต่อมทอนซิลสูงถึง 6% ส่วนในประเทศไทยนั้นยังไม่มีการทำสถิติออกมา แต่เชื่อว่าคนที่เป็นน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านคน และคุณอาจจะมีนิ่วที่ต่อมทอนซิลจนเกิดกลิ่นปากโดยไม่รู้ตัวก็ได้ โดยให้ลองสังเกตดูว่าคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ เช่น มีอาการระคายคอ รู้สึกเหมือนมีเสมหะในลำคอบ่อยๆ ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง หรือถ้าพักผ่อนน้อยหรือไปออกกำลังกายเมื่อไหร่ก็จะมีไข้รุมๆ ไม่สบายตัว เจ็บคอนิดหน่อยตรงต่อมทอนซิล และอาจมีอาการอ่อนเพลียสุดๆ เป็นต้น ถ้ามีก็รีบไปพบแพทย์ด่วนๆ เลยจ้า (ข้อมูลจาก นพ. สรัลชัย เกียรติสุระยานนท์)
12. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง มะเร็งปอด วัณโรคปอด ก็จะมีกลิ่นออกออกมากับลมหายใจและลมปากได้
13. โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ภาวะท้องอืด โรคกรดไหลย้อน โรคแผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร
14.การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ สะตอ ชีส ทุเรียน ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ แต่เมื่อถูกย่อยหรือดูดซึมและขับถ่ายออกหมดแล้ว กลิ่นก็จะหายไป (แต่ถ้ารับประทานต่อเนื่องก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน)
15. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเหล้าหรือเบียร์ก็ล้วนแต่เป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก
16. ยาบางชนิด เช่น ยารักษาผู้ป่วยโรคจิตบางตัว ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง ก็ทำให้เกิดกลิ่นได้
17. ผู้ที่สูบบุหรี่นานๆ จะทำให้ลมหายใจและลมปากมีกลิ่นเหม็น
18. ผู้ที่ใส่ฟันปลอมหรือใส่เครื่องมือต่างๆ ในปาก เช่น เครื่องมือจัดฟัน เครื่องมือกันฟันล้มเก เฝือกสบฟัน เป็นต้น ถ้าหากรักษาความสะอาดไม่ดีพอก็ทำให้มีกลิ่นได้ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ทำด้วยหรือมีส่วนผสมของอะคริลิกอยู่ด้วย เนื่องจากเนื้ออะคริลิกจะมีรูพรุนที่สามารถดูดซึมของเหลวต่างๆ ได้ หากล้างไม่สะอาดอาหารก็จะบูดเน่าติดอยู่กับเครื่องมือเหล่านี้จนทำให้เกิดกลิ่นได้ ดังนั้นควรทำสะอาดทุกครั้งหลังจากถอดแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็ควรแช่ไว้ในน้ำสะอาด และก่อนนำมาใช้ก็ให้ทำความสะอาดอีกรอบ ถ้ามีคราบหรือหินปูนเกาะก็ให้ใช้น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมโดยเฉพาะแช่ไว้เป็นครั้งคราว
นอกจากนี้สาเหตุของกลิ่นปากอาจเกิดได้จากโรคที่เกี่ยวกับระบบการทำงานของร่างกายต่างๆ ซึ่งจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของแต่ละโรค เช่น โรคเบาหวาน การติดเชื้อหรือเป็นฝีที่ปอด ตับหรือไตวาย ความเจ็บป่วยในระบบทางเดินอาหารต่างๆ รวมไปถึงผู้ป่วยที่ควบคุมอาหารเป็นประจำ
วิธีทดสอบกลิ่นปาก1.ให้หายใจเข้าเต็มที่ ใช้มือป้องปากและจมูกเอาไว้ แล้วหายใจออกจากปาก แล้วให้สูดลมหายใจเข้าทางจมูกเพื่อดมกลิ่นว่าเหม็นหรือไม่
2.ใช้วิธีเลียข้อมือและดมดู หรือในบางคนอาจจะใช้นิ้วมือถูที่บริเวณเหงือกแล้วนำมาดมกลิ่นว่าเหม็นหรือไม่ 3.ให้บ้วนน้ำลายออกมาแล้วลองดมกลิ่นน้ำลายดู (ปกติแล้วน้ำลายจะเป็นสารคัดคลั่งที่สะอาดและไม่มีกลิ่น) ถ้าน้ำลายมีกลิ่นก็แสดงว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อโรค และอาจเป็นไปได้ว่าน้ำลายนั้นผ่านนิ่วที่ต่อมทอนซิลออกมา 4.วิธีนี้ชัวร์สุด ก็คือการข้อร้องให้คนใกล้ชิดช่วยบอกว่ามีกลิ่นปากหรือไม่ |
งานเปิดตัวสินค้า BAMBOO MOUTHWASH @Royal Paragon Hall
ส่งของ 2 รอบ 11:00 กับ 16:00 (เสาร์ อาทิตย์ ส่ง รอบ11:00 น.) หลังจาก ส่งสินค้าทางเราจะจัดส่งเลขEMSให้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น